โชเซ มูรินโญ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แจงเหตุปะทะคารมข้างสนามช่วงท้ายเกม อ้าง เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เกิดการเข้าใจผิด นึกว่าตนเรียกร้องขอใบแดง ก่อนจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา
"เดอะ สเปเชียล วัน" ออกอาการไม่พอใจ กรณี โรแบร์โต เฟอร์มิโน แนวรุก "หงส์แดง" ผลัก อันเดร์ เฮร์เรรา ที่เพิ่งเสียฟาวล์ข้อหาดึงเสื้อ เป็นเหตุให้ ไมเคิล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสิน ชักใบเหลืองแจกทั้งคู่ช่วงทดเจ็บ จากนั้นก็เกิดความวุ่นวายบริเวณซุ้มม้านั่งสำรอง ระหว่างผู้จัดการทีมทั้ง 2 ฝ่าย ร้อนถึงผู้ตัดสินที่ 4 ต้องเข้ามาห้ามปราม
นายใหญ่ชาวโปรตุกีส กล่าว "เขาคิดว่าผมกดดันผู้ตัดสินให้ไล่ลูกทีมของเขาออก ผมเปล่าเลย และไม่มีปัญหาอะไรกับจังหวะนั้น ผมคิดว่าไม่มีอะไรผิดปกติ นักเตะมีอารมณ์ตามเกมอย่างเป็นมืออาชีพ และกรรมการควบคุมเกมได้ดีมาก ดังนั้นผมมองว่าเป็นแมตช์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟนๆ ทั่วโลก"
ยูไนเต็ด ตามหลัง 0-1 จากความผิดพลาดของ พอล ป็อกบา มิดฟิลด์ค่าตัวแพงสุดในโลก 89 ล้านปอนด์ (4.45 พันล้านบาท) พยายามโหม่งสกัด แต่กะจังหวะบอลพลาดจึงโดนแขน ทำให้ เจมส์ มิลเนอร์ แข้งสารพัดประโยชน์ สังหารจุดโทษตุงตาข่าย อย่างไรก็ตาม ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงจอมเก๋า โขกตีเสมอท้ายเกม ฉุด "ปิศาจแดง" พ้นความปราชัยคาบ้าน ถึงแม้จะหยุดสถิติชนะรวดไว้เพียง 9 เกม
อดีตบิ๊กบอส เชลซี เผยถึงเหตุการณ์ของ ป็อกบา "ผมไม่เห็นแบบชัดๆ แต่กรรมการอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมาก บางทีมันอาจเป็นจุดโทษ ปัญหาอยู่ที่ดุลยพินิจ บางครั้งกรรมการก็เป่า บางครั้งก็ไม่เป่า มันน่าทึ่งเหลือเกินว่า ตลอด 21 เกมลีก , 3 เกม ลีก คัพ และ 1 เกม เอฟเอ คัพ (รวม 25 เกม) เราได้แค่ 1 จุดโทษ ไมเคิล โอลิเวอร์ บอกผมตอนจบเกมว่า ครั้งนี้มันเป็นจุดโทษ"
ด้าน อิบราฮิโมวิช วัย 35 ปี กล่าว "เราได้ 1 แต้ม แค่เราเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน มันเป็นการขับเคี่ยวที่ดุเดือด เราตามหลัง 0-1 เราพยายามทวงคืน และสุดท้ายเราก็ตีเสมอได้ เราผิดพลาดกันง่ายๆ จังหวะเดินเกมรุก เราไม่นิ่งพอภายใต้ความกดดันของคู่แข่ง หากเราทำได้เหมือนครึ่งหลังตั้งแต่ 45 นาทีแรก ผลการแข่งขันอาจแตกต่าง"