ข่าวกีฬาตะกร้อ “รังสิโรจน์ สิริสมุทรสาร” ถือเป็นนักตะกร้อตำแหน่ง “ตัวชง” ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ที่แจ้งเกิดบนเวที “ตะกร้อไทยแลนด์ลีก” ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี เลยก็ว่าได้ พร้อมผ่านการเล่นกับ “สโมสรตะกร้อชั้นยอดขอเมืองไทย” มาแล้วมากมายไม่ตำกว่า 5 สโมสร อาทิ อุดรธานี, นครปฐม, แพร่,ราชบุรี และ กรุงเทพมหานคร และ สุพรรณบุรี
เท่านั้นยังไม่พอ “รังสิโรจน์” ยังถือเป็นนักตะกร้อประวัติศาสตร์ที่กวาดแชมป์ “ตะกร้อไทยแลนด์ลีก” เอารูปมาประดับตู้โชว์ที่บ้านได้มากที่สุดในเมืองไทย ถึง 9 สมัย กับ 3 สโมสร อย่าง นครปฐม, ราชบุรี และ สุพรรณบุรี
ทำให้งานนี้ทีม U TAKRAW เลยอยากรู้ว่า “บ๊อบบี้” รังสิโรจน์ สิริสมุทร ตัวชงดีกรีแชมป์ 9 สมัย มีมุมมองกับ “ตะกร้อไทยแลนด์ลีก” จาก “อดีต” กับ “ปัจจุบัน” แตกต่างอย่างไรบ้าง
“รังสิโรจน์” เล่าว่า “เขาเล่น “ตะกร้อไทยแลนด์ลีก” ครั้งแรกกับทีม “อุดรธานี” ในศึกตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 3 เลกที่ 2 เมื่อ 2547 ซึ่งต้องบอกว่าเมื่อก่อนต่างกับ ปัจจุบันเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องคนดู เพราะในตะกร้อไทยแลนด์ครั้งแรก มีแฟนตะกร้อแต่ละจังหวัดเยอะมาก ไม่เหมือนปัจจุบันที่คนดูหายไปจนบ้างจังหวัดก็แทบไม่มีคนดูเลย
“ตะกร้อไทยแลนด์ลีก” ในอดีตกับปัจจุบัน ที่ต่างกันมากคือ เรื่องความเข้มข้นของการแข่งขัน หากใครเคยดูตะกร้อในอดีตก็จะรู้เลยว่ามันต่างๆ กันมากจริงๆ เพราะที่ผ่านมา “ตะกร้อไทยแลนด์ลีก” ถือเป็นเวทีการแข่งขันที่จะมี *“ซูเปอร์สตาร์นักตะกร้อทีมชาติไทย” ที่จะกระจายไปอยู่ตามสโมสรต่างๆ มาลงวาดลวดลายให้แฟนตะกร้อได้ชมกัน ซึ่งสร้างความคึกคักให้กับการแข่งขันได้เยอะมาก”
“แต่ทว่าปัจจุบัน มันไม่มี “นักตะกร้อสตาร์ทีมชาติไทย” ที่ดึงดูดในคนมาดูตะกร้อในสนามเหมือนแต่ก่อนแล้ว ทำให้การแข่งขันมันขาดความเข้มขลัง และขาดขสีสันไปเลย และความท้าทายในการแข่งขันของนักกีฬามันลดน้อยลงไปด้วย”
“นอกจากนี้จำนวนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันมันก็หายไม่แบบน่าใจหาย เพราะในอดีตที่ผ่านมาตะกร้อไทยแลนด์ลีก จะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันเยอะมาก แต่ปัจจุบันมันเหลือเพียงแค่ 7 ทีม เท่านั้น จากที่อดีตมีฤดูกาล 10 หรือ 12 ทีม ทำให้ระยะเวลาในการแข่งขันแต่ละดูฤดูกาลมันลดลงไปด้วย มันทำให้รู้ว่าการแข่งขันมันมีความท้าทายที่สดลงเพราะทีมมีจำนวนน้อย และนักกีฬาที่เล่นก็เป็นนักกีฬาหน้าเดิมๆ”
“ส่วนเรื่องรูปแบบแข่งขันก็ไม่ได้มีการอะไรแตกต่างๆจากในอดีตเลย เพราะมันก็ยังแข่งขันในรอบแบบนัเมีตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้ผมมองว่ามันจะมีการปรับปรุงให้รูปแบบการแข่งขันมันดูน่าตื่นตา ตื่นใจให้ มันดูมีสีสันมากกว่า”
“ขณะที่เรื่อง ค่าตอบแทน ของนักกีฬาเป็นอีกเรื่องที่ควรทำให้มันมี บรรทัดฐาน มากกว่านี้ เพราะนักกีฬาควรมีเงินเดือน และค่าตอบแทนที่เหมาะสมมากกว่านี้ เพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นักกีฬาก็จะได้เพียงแค่ค่าตัว กับ เบี้ยเลี้ยงซ้อมเท่านั้น” รังสิโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งหมดนั้นก็คือ มุมมอง ของ “บ๊อบบี้” รังสิโรจน์ สิริสมุทรสาร นักตะกร้อระดับ “ตำนาน” ดีกรีเจ้าของแชมป์ 9 สมัย ที่มีกับการแข่งขัน ”ตะกร้อไทยแลนด์ลีก” ใน “อดีต” กับ “ปัจจุบัน”
ทำเนียบแชมป์ตะกร้อไทยแลนด์ลีก 9 สมัย ของ “รังสิโรจน์ สิริสมุทรสาร”
นครปฐม 7 สมัย
ตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 4 ปี 2548
ตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 7 ปี 2551
ตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 8 ปี 2552
ตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 9 ปี 2553
ตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 10 ปี 2554
ตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 14 ปี 2558
ตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 15 ปี 2559
ราชบุรี 1 สมัย
ตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 18 ปี 2562
สุพรรณบุรี 1 สมัย
ตะกร้อไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 20 ปี 2565
“หมอเค” เจษฎา โพธิ์ปาน : เรื่อง
ฟิล์ม พลากร : กราฟฟิกดีไซน์
อ่านข่าวต่อ : ข่าวกีฬาตะกร้อ
โพสต์โดย : sdg55 เมื่อ 9 ก.ย. 2565 16:47:15 น. อ่าน 132 ตอบ 0