ผ่านเกมแรกไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2022/23 เหล่าบรรดา TOP 6 ต่างพาเหรดคว้า 3 แต้มเกือบทั้งหมด มีเพียง ลิเวอร์พูล ที่สะดุดเสมอฟูแล่ม 2-2 และ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พลาดท่าพ่ายแพ้ต่อไบร์ทตัน คารัง 1-2
สิ่งที่น่าสนใจคือการเปิดตัวเกมแรกของ “จอมมารบูล” เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่จัดการเหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ บุกไปเชือดเวสต์แฮม ถึงถิ่น 2-0 จากชัยชนะสุดสวยของ แมนฯ ซิตี้ นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของฮาแลนด์เท่านั้น เพราะซีซั่นนี้ยังเหลืออีก 37 เกมรอให้ฮาแลนด์ได้โชว์ฟอร์มระเบิดประตู
ซึ่งการที่ฮาแลนด์ทำสกอร์ได้ตั้งแต่เกมแรกที่ประเดิมสนามนับเป็นเรื่องดี แต่จะชะล่าใจคงไม่ได้ เพราะพรีเมียร์ลีกมีแต่จอมถล่มประตูเยอะแยะมากมาย เดี๋ยวในบทความนี้ 1six8 เว็บคาสิโนออนไลน์ ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ TOP 5 ดาวยิง ที่มีลุ้นได้ดาวซัลโวซีซั่นนี้กันครับ
ตามที่ผมได้เกริ่นในช่วงต้นไป ดาวยิงชาวนอร์เวย์รายนี้ เปิดตัวกับสโมสรใหม่ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการกระทุ้งประตูคนเดียว 2 ลูกใส่ทางด้านเวสต์แฮม ทำให้ตอนนี้เจ้านี้ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในตำแหน่งดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกร่วมกับ ปาสกาล กรอสส์ และ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
โดยก่อนหน้านี้ ฮาแลนด์ เพิ่งถูกวิพากย์วิจารณ์จากเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ กับลิเวอร์พูล จากช็อตยิงซ้ำจ่อๆไปชนคาน ทำให้ดาวยิงจอมมารบูลรายนี้น่าจะผ่อนคลายความกดดันไปได้เยอะ ด้วยฟอร์มการยิงถล่มประตูแบบนี้ รวมถึงได้เห็นการประสานงานกันของเขาและเดอบรอยน์ ผมเชื่อเหลือเกินว่าหากจะคัด 1 ใน 5 ดาวยิงที่มีลุ้นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก ก็คงหนีไม่พ้นเขานี่แหละ
คนต่อมาทุกท่านน่าจะรู้จักกับ “เมสซี่อียิปต์” โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ กันเป็นอย่างดี ดาวยิงหัวฟูคนนี้มีชื่อติดดาวซัลโวมาทุกซีซั่นนับตั้งแต่ย้ายจาก อาแอส โรม่า มายังถิ่นแอนฟิลด์ หากนับถึงตอนนี้ซาล่าห์คว้าดาวซัลโวไปแล้วถึง 3 สมัยด้วยกันจากการค้าแข้งกับลิเวอร์พูล 5 ฤดูกาล
โดยในเกมแรกนัดเปิดสนามพบกับฟูแล่ม ซาล่าห์ทำได้ไป 1 ประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลเก็บ 1 แต้มรอดพ้นความพ่ายแพ้มาได้ ซึ่งในเกมนี้แม้ว่าลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มโดยรวมได้ต่ำกว่ามาตรฐาน แต่ด้วยความสุดยอดของดาวยิงหัวฟูก็ยังสามารถที่จะผลิตสกอร์ได้ หากลองคิดว่าถ้าทัพหงส์แดงเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ทั้งทีม โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ จะสามารถผลิตสกอร์ได้มากมายขนาดไหน เพราะฉะนั้นแล้ว 1 ในแคนดิเดตดาวซัลโวปีนี้ต้องมีชื่อของเขา
คนต่อมาขอพูดถึงดาวยิงคนใหม่ป้ายแดงของลิเวอร์พูลกันก่อนเลยสำหรับ ดาร์วิน นูเญซ หลังจากที่ ลิเวอร์พูล จัดการคว้าตัวดาวยิงชาวอุรุกวัยรายนี้ เขาก็ถูกทางสื่อและแฟนบอลจับมาเป็นคู่แข่งตัวสำคัญในการชิงดาวซัลโวกับเออร์ลิง ฮาแลนด์ ทันที ด้วยความที่ทั้งคู่ถูกดึงตัวมาร่วมทีมในราคาที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีอายุใกล้เคียงกัน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโดนสื่อและแฟนบอลจับมาเปรียบเทียบกัน
สำหรับผลงานของนูเญซในช่วงออกสตาร์อาจจะไม่ค่อยดีมากนัก หลังจากประเดิมสนามเกมแรกในช่วงปรีซีซั่นกับแมนฯ ยูไนเต็ด ผลปรากฏว่านูเญซมีช็อตยิงซ้ำจ่อๆเช่นเดียวกับฮาแลนด์ และช็อตนี้เจ้าตัวได้ยิงข้ามคานออกไป แต่หลังจากนั้นมาหลังจากที่สามารถปลดล็อคแฮทริคแรกได้ในสีเสื้อของลิเวอร์พูลกับเกมเจอแอร์เบ ไลป์ซิค นูเญซก็ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับมาโดยตลอดและกำลังมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ แนะนำให้จับตารายนี้คนนี้ไว้ให้ดีๆ คาดว่าจะกระซวยตาข่ายได้อย่างน้อยไม่ต่ำไปกว่า 10 ลูก
แข้งเอเชียคนแรกและคนเดียวที่สามารถผงาดคว้าดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกมาครองไว้ได้ในซีซั่นที่ผ่านมา ด้วยผลงานรวม 23 ประตู และไม่มีจุดโทษแม้แต่ลูกเดียว แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เจ้าตัวไม่มีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำซีซั่น ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อฟอร์มการเล่นโดยรวมของเขามากนัก แถมกลับส่งพลังบางอย่างให้เจ้าตัวเร่งทำผลงานให้ดีกว่าเดิมซะด้วยซ้ำไป
พูดถึงผลงานของ ซอน ฮึง มิน จากเกมนัดแรกในที่เปิดบ้านถล่มเอาชนะเซาแธมป์ตัน 4-1 จัดว่าวูบวาบพอสมควรถึงแม้จะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดก็ตาม แต่ด้วยคุณภาพของอาตี๋ซอนเอง ทักษะ ความเร็วที่ยังคงจัดจ้าน ทั้งสื่อและแฟนบอลเองก็คงไม่มีใครเห็นแย้งเป็นแน่แท้ ว่าเขาคือผู้เล่นที่มีลุ้นรางวัลดาวซัลโวอีก 1 สมัยในฤดูกาลนี้
5. แฮร์รี่ เคน
มาถึงคนสุดท้ายที่ทางเราได้คัดเลือกมา สำหรับคู่หูดูโอ้ของอาตี๋ซอนอย่าง แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าชาวอังกฤษ หากจะพูดถึงรายชื่อดาวยิงที่มีลุ้นคว้ารองเท้าทองคำ ต้องมีชื่อของเคนอย่างแน่นอน แม้ว่าพักหลังจะกลายเป็นตัวจ่ายมากกว่าตัวจบก็ตาม แต่คุณจะไม่สามารถกาชื่อของเขาคนนี้ทิ้งออกไปได้เลย เพราะคุณสมบัติของกองหน้าที่ดีที่ควรมี แฮร์รี่ เคน มีครบทุกประการ
ในซีซั่นที่ผ่านมากับบทบาทตัวพักบอลของ แฮร์รี่ เคน เขาสามารถกระทุ้งประตูไปได้ทั้งหมดถึง 17 ประตู นี่ขนาดว่าในช่วงต้นซีซั่นตัวเขามีอาการบาดเจ็บรบกวนจนทำให้พลาดการลงสนามไปหลายนัด ดาวยิงชาวอังกฤษคนนี้ยังสามารถผลิตสกอร์ได้เกือบ 20 ลูก น่าสนใจนะครับว่าถ้าหากเคนมีโอกาสลงสนามได้มากขึ้นโดยไม่มีอาการบาดเจ็บตามมาจีบ บางทีเขาอาจจะกลับไปยิงประตูหลัก 20+ ก็เป็นได้
โพสต์โดย : Football เมื่อ 9 ส.ค. 2565 18:21:01 น. อ่าน 109 ตอบ 0