ข่าวกีฬาตะกร้อ โดยนำกรรมวิธีเล่นตะกร้อเตะวง ประสานกับท่าเตะพลิกแพลงต่างๆของการเล่นตะกร้อพลิกแพลงที่มีการเล่นอยู่บ้างแล้ว เพิ่มการห้อยห่วงที่คิดประดิษฐ์ขึ้นแขวนไว้สูงจากพื้นกึ่งกลางสนามเล่น ให้ผู้เล่นเตะป้อนลูกตะกร้อกันไปๆมาๆโดยมีเป้าหมายให้ลูกตะกร้อลอดเข้าห่วงที่ห้อยไว้ ลูกที่เข้าห่วงจะได้คะแนน ท่าเตะที่ทำให้ลูกเข้าห่วงยิ่งพลิกแพลงยากมากมายเยอะแค่ไหน ก็จะยิ่งได้คะแนนมากมาย ตามที่ได้มีการกำหนดคะแนนของแต่ละท่าเตะไว้ ในระยะต้นเป็นการทดสอบเล่นแล้วก็เผยแพร่กระบวนการเล่น ก็เลยเป็นการเล่นแสดงแค่นั้น ดังปรากฏหลักฐานในงานสังสรรค์ ๑๐ ปีของหนังสือพิมพ์ศรีกรุงตอนวันที่ ๘ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๒ พูดว่า “เวลา ๑๗.๐๐ น.…. ตะกร้อแผนกนายผุดผ่อง ศรีชมรมแสดงได้อย่างสามารถน่าสรรเสริญ อย่างเช่นเตะเข้าบ่วงได้เสมอๆ…” (“กีฬา“,๒๔๗๒) ถัดมาก็เลยเริ่มมีการแข่งตะกร้อลอดห่วงเป็นครั้งแรกในปี พุทธศักราช ๒๔๗๔ โดยสัมพันธ์กีฬาไทยเป็นผู้จัดขึ้น และก็มีการเล่นแพร่หลายกระจัดกระจายไปยังจังหวัดอื่นๆในภาคกึ่งกลาง ดังปรากฏหลักฐานในหนังสือกีฬาท้องถิ่น (กรมพลศึกษา,๒๔๘๐) พบว่าในปี พุทธศักราช ๒๔๘๐ มีการเล่นตะกร้อลอดห่วงกันแล้วในจังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร ฯลฯ เดี๋ยวนี้ตะกร้อลอดห่วงมีการเล่นแล้วก็ชิงชัยกันแพร่หลายทั่วราชอาณาจักร
ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ที่แสดงอัตลักษณ์: ๑. ตะกร้อลอดห่วงเป็นกีฬาท้องถิ่นของไทยโดยแท้จริง ที่คิดประดิษฐ์ขึ้นโดยชาวไทย ๒. มีวิธีการเล่น ข้อตกลงการเล่น รวมทั้งเครื่องใช้ไม้สอยการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทย ยังไม่เจอประเทศใดมีการเล่นเตะลูกตะกร้อ(ลูกฟุตบอลกลมที่สานด้วยหวาย)ให้ลอดห่วงสามเส้า(สามด้าน)ที่ห้อยไว้สูงอย่างของไทยมาก่อน ๓. ท่าเตะของตะกร้อลอดห่วงมีท่าทางนานัปการ ท้าความรู้ความเข้าใจ แปลก สะดุดตา ประณีตบรรจง แปลกประหลาด แล้วก็งามเป็นเอกลักษณ์ไทยแท้อีกทั้งท่าที่ใช้เท้า หน้าแข้ง หัวเข่า ศอก ไหล่ หัว อีกทั้งท่าเตะข้างหน้า ข้างๆ ข้างหลัง มีทั้งยังยืนเตะ กระโจนเตะ แล้วก็มีการเตะให้ลอดบ่วงมือ ดังเช่นท่าลำแข้ง ท่าส้นขัด ท่าขึ้นม้า ท่าพับเพียบ ท่าขึ้นม้าห่วงมือ ท่าพับข้างหลังตบบ่วงมือ ฯลฯที่ประเทศอื่นในโลกไม่มีอาทิเช่นเมืองไทย
อ่านข่าวต่อ : ข่าวกีฬาตะกร้อ
โพสต์โดย : gg4125
